เครื่องน็อก จอดับ

บันทึกเรื่องที่เกิดในวันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2013 ที่ผ่านมา

วันศุกร์จะเป็นวันที่วิ่งยาวๆของผม และศุกร์นี้ก็จะวิ่ง 5-6 รอบสวนลุมฯ ขึ้นอยู่กับสภาพของร่างกาย
ลงไปวิ่งตอน 18:10 โดยประมาณ วิ่งไปเรื่อยๆไม่รีบไม่เร่งเพราะเป็นการวิ่งระยะไกลกว่าที่เคยผ่านมา (เคยวิ่งได้ 6 รอบมาแล้วครั้งหนึ่งเมือประมาณ 3 อาทิตย์ก่อน) ผ่านไป 3 รอบ ร่างกายไม่เหนื่อยไม่ล้า จึงตัดสินใจวิ่ง 6 รอบแน่นอนในวันนี้
ผ่านรอบที่ 4 ขึ้นรอบที่ 5 รู้สึกตัวได้ว่าการหายใจเริ่มเร็วกว่าปกติ ร่างกายเริ่มเหนื่อยกว่าเดิมอย่างชัดเจน แต่ก็ทนได้ เหนื่อยเหมือนไม่ออก เหมือนไม่มีน้ำในตัวแล้ว
รอบที่ 6 รอบสุดท้าย เหนื่อยเริ่มออกใหม่ คราวนี้ รู้สึกร้อนมากๆบ้างช่วง แล้วก็หนาวในบ้างจังหวะ เหมือนเป็นไข้ แต่ก็ไม่คิดมามีปัญหาไร เพราะวิ่ง 6 รอบคราวก่อนก็เป็นเหมือนกัน
วิ่งครบ 6 รอบ ระยะทาง 15 กิโลเมตร เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที โดยเฉลี่ย 7 นาที 20 วินาที ต่อกิโลเมตร เป็นเวลาที่ผมพอใจเลย

จากนั้นผมก็ไปกิน สปอนเซอน์ 1 ขวด แล้วก็ตามด้วยโค้กกระป๋องอีก 1 กระป๋อง โดยที่ท้องยังว่าง ไม่ได้กินข้าวเย็น เพราะหิวน้ำมาก เป็นความผิดพลาดที่ 1
แต่ยังไม่พอ พักซักครู่แล้วตอนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้าน ก็เห็นห้องน้ำว่างอยู่ เลยอยากลองอาบน้ำก่อนกลับบ้านบ้าง เพราะปกติแค่เช็ดตัว วันนี้เข้าไปอาบน้ำดีกว่า แต่ไม่มีผ้าเช็ดตัวครับ ก็แค่สลัดแล้วมือลูบไล่น้ำออก แต่ก็เปียกตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าอยู่ดี ก็ใส่เสื้อผ้ากลับบ้าน เป็นความผิดที่ 2 ซึ่งคิดว่าร้ายแรงที่สุด

เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินที่สีลม ได้ขึ้นรถก็ไปยืนพิงผนังระหว่างโบกี้ของรถไฟ แทนที่จะไปนั่งเพราะมีที่นั่งอยู่บ้าง เพราะคิดว่าเราแข็งแรงทั้งๆที่วิ่งยาวมาแล้ว เป็นความผิดที่ 3

รถไฟวิ่งถึงสถานีพระราม 9 ท้องเริ่มมีแก๊สเยอะจากโค้ก แล้วก็มีอาการเหมือนท้องเดินร่วมด้วย เหนื่อยออก ทั้งๆที่อากาศเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศของรถไฟ

รถไฟวิ่งถึงสถานีศูนย์วัฒนธรรม อาการเริ่มหนักไปอีก คิดในใจว่าจะไปถึงรัชดาไหมนี่

รถไฟวิ่งถึงสถานีห้วยขวาง ตัวเย็น แต่เหนื่อยไหลท่วมเป็นน้ำเลย

รถไฟวิ่งถึงสถานีสุทธิสาร ตาเริ่มลาย ยืนทรงตัวยากขึ้น แต่ก็มีสติครบถ้วนอยู่

รถไฟออกจากสุทธิสารไม่ถึงอึดใจ ตาลายหนักขึ้น มองหน้าผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนจับเสาที่ประตูเข้ารถไฟ แล้วเบลอ จากนั้นภาพก็หายไป ความรู้สึกคือมันเป็นสีขาวไปหมดไม่ ดำ น่ะ ในใจก็คิดว่า นั่งดีกว่า เพราะยืนต่อไปต้องล้มทั้งยืนแน่ๆ ผมเลยทิ้งตัวลงนั่งทันที

เวลาผ่านไปไม่นานคิดว่าไม่เกิน 2-3 วินาที ภาพก็กลับมา มองเห็นปกติ ผมเอามือลูบหน้าตัวเอง ตัวเย็น แต่เหนื่อยไหลท่วม เหมือนน้ำเลย ในใจคิดว่าจะถึงสถานีรัชดาอยู่แล้ว แต่จะออกจากรถไฟได้ไหม เพราะถ้าอาการไม่ดี จะยืนไม่ได้แล้วอาจจะหน้ามืด ล้มลงก็ได้

รถไฟใกล้ถึงสถานีรัชดาแล้ว ผมเลยลองยืนช้าๆ เพราะถ้ามีอาการจะได้ลงนั่งได้ทันที อาการปกติ ยืนได้ไม่มีการหน้ามืดใดๆ ผมก็สามารถออกจากรถไฟที่สถานีรัชดา แล้วเดินถึงคอนโดได้อย่างปกติ แต่ระหว่างเดิน จะเดินช้าๆ แล้วสังเกตอาการตัวเองตลอด แต่ที่แปลกใจคือ อาการแก๊สแน่นท้องจากโค้กแล้วอาการปวดท้องเหมือนท้องเดินหายสนิทเลยครับ

จากทั้งหมดคิดว่าเกิดจากอาบน้ำแล้วไม่เช็ดตัว ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากกว่าปกติ ทั้งๆที่วิ่งยาวมาแล้วด้วย เลยทำให้เครื่องน๊อก จอดับไปเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กู้ชีพ external harddisk

เรียนว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ วันที่ 3

เรียนว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ วันที่ 1